ตากุ้งยิงเกิดจากการติดเชื้อแบคที่เรีย บางรายเกิดเนื่องจากมีการอุดตันของต่อมบริเวณเปลือกตามาก่อน แล้วเกิดการติดเชื้อซึ่งมีอยู่เป็นปกติในบริเวณนั้นตามมา
สาเหตุของอาการตากุ้งยิง
– เปลือกตาไม่สะอาด มักเกิดจากการขยี้ตาบ่อยๆ
– ใช้เครื่องสำอาง แล้วล้างออกไม่หมดหรือล้างไม่สะอาด
– ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาด
ลักษณะอาการของตากุ้งยิง
– ปวดหนังตา
– กลอกตาหรือหลับตาจะทำให้ปวด
– บางคนมีอาการบวมที่เปลือกตา
– คลำเจอก้อนหรือเห็นเป็นก้อนที่เปลือกตา
– บางคนบวมมากจนตาปิด
– บางคนมีหนองไหลออกจากเปลือกตา
– หากหนองแตกในตาจะทำให้มีขี้ตาเป็นสีเขียว
วิธีการรักษา
• ในระยะแรก จะมีลักษณะแบบเปลือกตาอักเสบ ยังไม่มีหนอง ถ้าได้ใช้ยาทันท่วงที และใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เป็น จะทำให้ไม่เกิดการรวมตัวเป็นฝีขึ้น กุ้งยิงก็จะหายได้โดยการใช้ยาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องผ่าฝี
– การใช้ยา ควรได้รับการตรวจตาและสั่งยาโดยแพทย์ ยาที่ใช้มักเป็นยาปฏิชีวนะหยอดตาป้ายตา
– บางรายอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะรับประทานร่วมด้วย
– ในรายที่เป็นฝีหรือตุ่มเป็นไตขึ้นมาแล้วจำเป็นต้องทำการผ่าฝีและขูด บริเวณนั้นออกให้สะอาดจริงๆ ร่วมกับการใช้ยาเพื่อรักษาให้หายขาดและไม่ให้เป็นซ้ำอีก
– บางรายอาจเป็นซ้ำได้ถ้าหนองยังออกไม่หมด หรือการอักเสบยังไม่หายดี
– การผ่าตัดระบายหนอง
• จักษุแพทย์จะใช้ยาชาหยอดตาให้ชา และใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีด
• ดังนั้นขณะที่ทำคนไข้จะไม่เจ็บ
• หลังการเจาะกุ้งยิง แพทย์มักปิดตาข้างนั้นไว้เพื่อไม่ให้เลือดออก และช่วยลดอาการบวมประมาณ 4-6 ชั่วโมง
• ไม่ควรขับรถในช่วงนั้นเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้ามีอาการปวดเจ็บบริเวณที่เป็น
• ให้รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมงเมื่อมีอาการ
การดูแลตัวเองตอนเป็นตากุ้งยิง
– ประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นหรือไข่ต้มสุกห่อผ้าสะอาดบริเวณที่เป็นวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15-20 นาที่ เป็นเวลา 3-4 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวม เจ็บ และเป็นการทำให้รูเปิดของต่อมเปลือกตาไม่อุดตัน ในขณะทำการประคบให้หลับตาไว้
– ล้างมือบ่อยๆ
– งดใช้เครื่องสำอาง
– หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์
– ไม่ควรบีบหนองที่เปลือกตาเอง เพราะอาจทำให้อักเสบมากขึ้น
วิธีป้องกัน
– พยายามรักษาความสะอาด ไม่เอามือสกปรกไปขยี้ตา
– รักษาความสะอาดบริเวณใบหน้าและเส้นผม สระผมบ่อย ๆ อย่าให้ผมแยงตา
– เมื่อสงสัยหรือเริ่มมีอาการ ก็ควรรีบมาพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ใครที่กำลังประสบกับอาการตากุ้งยิงอยู่ละก็ ก็ลองทำตามวิธีการด้านบนได้เลย แต่ทางที่ดีที่สุดควรไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
ติดตามข่าวด่วน เกาะกระแสข่าวดัง บน Facebook คลิกที่นี่!(Like)
