เมื่อผมซื้อสาวบริการครั้งแรก และครั้งสุดท้ายในชีวิต! เธอให้ข้อคิดมากมาย โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากสอนซักคำ

สำหรับท่านชายคนไหนที่กำลังใช้ชีวิตสนุกสนาน โลดแล่นอยู่บนเส้นทางความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หรือแม้แต่หนุ่มๆ หน้าใหม่ที่อยากเข้าไปลิ้มลองสักครั้ง เรา

อยากขอให้คุณได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ก่อนนะคะ ไม่แน่ว่าค่ำคืนนี้ของคุณ อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายตลอดไป เหมือนชายคนนี้ก็ได้

ภาพจากPhotographee.eu/shutterstock

เมื่อผมซื้อ"สาวบริการ" ครั้งแรก และ "--ครั้งสุดท้าย--"



ผมก็เป็นผู้ชายทั่วไปครับ ทำงานหาเงินเป็นธรรมดา แฟนไม่มีครับ หน้าตาก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมาย ถือว่าเป็นธรรมดาเลยทีเดียว ชีวิตผมจะวนเวียนอยู่กับงาน

เป็นส่วนใหญ่ครับ ซึ่งงานที่ผมทำมันทำให้ผมเครียดมาก ต้องกินยาคลายเครียด บวกกับที่ผมอยู่ตัวคนเดียวไม่มีคนที่ปรึกษาปัญหาเรื่องนี้(อยากระบาย) เลยต้อง

หาวิธีทำให้ตัวเองดีขึ้นซึ่ง

          ผมลองมาทุกอย่างครับ ออกกำลังกาย กินอาหารที่อยากกิน เที่ยว ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เว้นยาเสพติดที่ไม่เคยคิดจะลอง แล้ววันหนึ่งผมนั่งพักกลางวันอยู่

ผมก็อยากลองใช้บริการ สาวไซด์ไลน์ดู โดยหาง่ายมากครับแค่เข้าไปในเว็บและนัดเจอ ค่าบริการที่ถูกที่สุดที่เห็นของเว็บนี้อยู่ที่ 1000 บาท สูงสุดก็ประมาณ

5000 บาท

          ผมก็นั่งไล่ดูรายชื่อ บางคนก็โพสรูป บางคนก็บอกสัดส่วนครบเลย ตั้งแต่อายุ 19-40 ปีครับ ผมเลยลองเลือกใกล้ๆๆ กับที่ทำงานเพราะไปมาสะดวก และ

ไปเจอสาวคนนึงเลยลองนัดเจอ...วันนั้น..

ผมโทรไปหาเธอแปบเดียวเธอก็รับสายปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงเราก็คุยกันประมาณว่า
ผม : โหลครับ
ญ : ค่ะ
ผม : A หรือเปล่าค่ะ
ญ : ไม่ใช่ค่ะ
ผม : อ่าวแล้วนี้ใครละค่ะ
ญ : B ค่ะ
ผม : อ่าวหรอ..หรือพี่โทรผิดนะ
ญ : ไม่ผิดค่ะนี้เบอร์ A ค่ะแต่ตอนนี้ B มีอีกเบอร์นึงเอาไหมค่ะรู้จักกัน
ผม : อ๋อ..แล้ว B ทำแบบเดียวกันกะ A หรือเปล่าคะ
ญ : ค่ะ
ผม : B มีรูปไหมคะ?
ญ : ตามในลายเลยค่ะ
ผม : อ่อๆๆ งั้นปรกติเขานัดเจอกันที่ไหนละค่ะ..?
ญ : ที่ XXX ค่ะ
ผม : ได้ๆๆพี่จะเลิกงานแล้วเดี๋ยวไปเจอกันนะ
ญ : พี่หนูยังไม่ได้แต่งตัวเลย อีกครึ่งชั่วโมงนะ
ผม : ได้ค่ะๆ เดี๋ยวเจอกัน

สิ้นเสียงวางสายผมก็ไปรอที่นัดไป โดยที่นัดไว้ตอน 18.00 น. แล้วน้องB ก็เลทไปประมาณ 30 นาที เธอก็โทรมาหาจนได้มาเจอกัน รูปกับตัวจริงแตกต่างกัน

ประมาณ 50% ดูคล้ำกว่ามาก และเธอแต่งตัวเหมือนโคโยตี้ใส่รองเท้าแตะมาหาผม ผมสีทอง ใส่บิ๊กอาย ฟันเหยินเห็นได้ชัด และทาปากแดงๆ สูงประมาณ 150

ได้

          เธอคุยเก่งชวนผมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปตลอดทางจนถึงโรงแรม โดยที่เธอคุยไปและกินขนมไปตลอดเวลา เธอก็ไม่ได้ดูสวย แต่ก็ไม่ได้ดูขี้เหร่ อยู่ใน

ระดับปานกลางๆ และโรงแรมที่พาไปเธอก็เป็นคนแนะนำ โดยเธอก็มีบัตรสมาชิกที่โรงแรมนั้นด้วย ผมขับรถเข้าไปโรงแรมนั้นมืดมากๆๆ มียายแก่ๆๆ คนนึง

นั่งอยู่ที่ม่านรูดด้านหน้านั้น และแกก็เอาทีวีมาตั้งดูละครไป เก็บตังค่าห้องไป ที่นั่นมีประมาณ 10 ห้องใช้บริการอยุ่ 1 ห้องผมเห็นรองเท้าแตะประมาณ 3 คู่

รองเท้าผู้ชาย 2 คู่ได้ ผมเลยไปจอดห้องข้างๆ นั้น ซื้อถุงยางอนามัยกับยายคนนั้นท่าทางใจดีมาก

          แกยิ้มให้ผมและพูดคุยกับ B อย่างสนิทสนม เพราะเธอคงมาใช้บริการบ่อย ห้องที่นั่นเหมือนโรงแรมทั่วไป มีทีวี ห้องน้ำแบบโปร่งใส และเตียง 1 เตียง

พร้อมไฟสีออกม่วงๆๆดูมองไม่ค่อยจะเห็นเท่าไหร่ และที่สำคัญแอร์เย็นมากและปรับไม่ได้ Bเข้ามาและถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในกับยกทรง ผมก็ขอ

ตัวอาบน้ำก่อนโดยที่เอากระเป๋าตังและเสื้อไปด้วย Bก็หันมาหัวเราะและบอกว่า "กลัวหายหรอ นู๋ไม่เอาไปหรอก และไม่หนีด้วย ตังนู๋ก็ยังไม่ได้"

          ผมก็ยิ้มและไปอาบน้ำ ออกมาจากห้องน้ำเธอก็เปิดทีวีดูเพลงลูกทุ่งอยู่ ผมก็ถามว่าชอบเพลงลูกทุ่งหรอ เธอก็บอกว่าชอบ และก็แบมือขอตังก่อนที่จะมีไร

กัน ผมก็จ่ายไปเธอก็พิจารณาอยู่นานเพราะกลัวจะเป็นแบงค์ปลอม ส่องกะไฟทั่วห้องและเธอก็วางตังไว้ที่หัวเตียง บราที่เธอใส่เป็นสีดำแบบบิกินี่เหมือนกำลังจะ

ไปว่ายน้ำมากกว่าจะเป็นเสื้อใน ...

เมื่อเสร็จกิจเราก็มานั่งคุยกันโดยที่ตัวผมเป็นคนที่ชอบคุยอยู่แล้ว บวกที่เธอเป็นคนที่คุยเก่งเหมือนกัน และเธอก็ถามผมตลอด"พี่เป็นเอดส์"เปล่าเนี่ย?? ผมก็

บอกไปว่าไม่ได้เป็นพี่ป้องกันด้วย เพราะหล่อนจะให้ใส่ถุงตลอดเพราะเธอก็ไม่อยากเป็น...แล้วเราก็มานั่งคุยกันและเธอก็เล่าตัวเองให้ผมฟังว่า..

          เธอมีลูก 2 คนเป็นลูกสาว คนนึงอายุ 3 ขวบ คนนึงอายุ 7 ขวบ เธอส่งเข้าเรียนอยู่ตัวคนเดียว และเธอก็ต้องเรียนไปด้วยวันอาทิตย์แล้วที่เหลือเธอก็รับงาน

6 วัน เพื่อเก็บตังส่งไปให้ลูกๆๆที่บ้านนอก อยากให้ลูกสบายไม่ต้องลำบากเหมือนตัวเอง แถมพ่อแท้ๆๆของเด็กสองคนนี้ก็ไม่สนใจ ติดการพนัน และติดคุกไป

ตามสภาพ เธอเลยต้องออกมาหาเลี้ยงตัวเองและลูก ผมก็สังเกตไปเห็นที่ท้องของเธอเห็นเหมือนเป็นรอยผ่า ก็เลยถามว่ารอยอะไรเธอบอกว่า รอยจากทำหมัน

          แล้วเธอก็เอามือผมไปให้จับตรงหน้าท้องเธอ เลยถามว่าเจ็บไหม? เธอบอกว่าถ้ามีไรกันแรงๆก็เจ็บเหมือนกัน ในแววตาเธอที่เล่าให้ฟังเธอไม่มีความ

อายเลยแม้แต่น้อย มีแต่แววตาของความมุ่งมั่น แล้วมีกำลังใจและเธอก็บอกว่าอยากให้ปิดเทอมไวๆ เพราะอยากไปหาลูกๆ คิดถึงลูก ผมก็บอกเธอไปว่า "เวลา

มันผ่านไปเร็วเดี๋ยวก็ได้เจอนะ" เธอก็ยิ้มและมานอนที่ตักผม เธออายุประมาณ 24 ปี สาวตัวเล็กๆ ทำอาชีพขายบริการเลี้ยงลูก และเธอบอกผมว่า "หนูไม่เคยเล่า

ให้ใครฟังเลยนะ พี่เป็นคนแรกที่หนูเล่าให้ฟังนะเนี่ย"

เมื่อถึงจุดๆๆนี้ ผมเริ่มคิดหันมามองตัวเองว่า เราเที่ยวเพื่อสนุกนะเนี่ย กลับมาได้ความดราม่าแบบสุดๆๆซะงั้น !! มันทำให้ผมกลายเป็นไม่อยากเที่ยวไปเลย

เลยขอลองครั้งนี้ครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายของครั้งนี้ ตอนแรกผมยังคิดเลยว่าโกหกผมหรือเปล่า เธอยังยืนยันเปิดรูปลูกสาวให้ดูทั้งสองคนหน้าตาเหมือนเธอ

มาก กำลังน่ารักกันเลย เละเธอถ่ายรูปหอมแก้มลูกทุกรูปด้วย เอ้ออออ ได้อะไรมากกว่าเที่ยวสาวไซด์ไลน์อีกนะเนี่ยเรา....

          จนถึงตอนนี้ทำให้ผมนับถือในความรักของแม่ที่มีต่อลูกมากๆ และเธอก็บอกอยู่ว่าเธอไม่สามารถไปทำอาชีพอย่างอื่นได้ เพราะมันไม่พอกินพอใช้ กลัว

ลูกอดๆอยากๆ บวกกับคนที่บ้านเลี้ยงดูหลานก็ไม่ได้มีอะไร เธอเลยต้องเป็นสาวไซด์ไลน์เพื่อดำเนินชีวิตและเลี้ยงลูก

          มันมีความสุขแปลกๆๆว่าไหม เวลาเห็นผู้หญิงคนนึงเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง โดยไม่สนใจว่าตัวเธอเองจะเป็นอย่างไร ผมว่าใครจะว่าอะไรเธอ ว่าเธอเป็นตัวอะไร

เธอคงไม่สนใจเพราะเธอเป็นคนมีเป้าหมายชัดเจนว่า "อยากให้ลูกเรียนจบมัธยม" เมื่อถึงตอนนั้นจะทำงานอะไรค่อยว่ากัน ผมคุยกับเธอไปตลอดทางไปส่งเธอที่

เดิม เธอขอเบอร์ผมผมเลยบอกเธอไปว่า "พี่ขอเที่ยวกับเธอเป็นคนแรกและคนสุดท้ายและ พี่กะว่าจะไม่เที่ยวแล้วละ" เธอก็ทำหน้าเฟลและก็ยิ้มให้ตามมาโบก

มือและเธอก็ขับมอไซด์กลับบ้านไป

          ผมไม่คิดว่าการเที่ยวของผมมันจะดึงเข้าดราม่าขนาดนี้ แต่เรื่องราวของคนๆนึงนี่มันดูยิ่งใหญ่มากเหมือน กุหลาบสีม่วงที่อยู่ในดงหนาม เธอให้ข้อคิด

ผมมากมายเลยโดยที่เธอไม่ได้สอนผมซักคำ และมันทำให้ผมมองเห็นด้านดีๆ ของชีวิตผู้หญิงคนนึงที่เป็นสาวไซด์ไลน์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...หรือผมอ่อนต่อ

โลกเกินไปไม่เคยเที่ยว และพอมาเที่ยวแล้วเห็นอย่างงี้แล้วอ่อนไหว ไม่ม้างงง

แต่ที่รู้ๆๆอย่างนึงเลยคือ ครั้งแรกครั้งนี้และครั้งสุดท้าย จริงๆๆ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ



***หวังว่าทุกคนที่อ่าน อ่านเพื่อได้ข้อคิดนะครับ อ่านเพื่อจรรโลงใจ อ่านเรื่องราวประสบการณ์ที่ผมแค่อยาก"แบ่งปัน" ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกใคร หรือให้ใครมาดู

ถูกตัวผมเกี่ยวกับซื้อบริการนะครับ***

เรา ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆชีวิต ที่ต้องก้าวเดินต่อไปในสังคมนี้นะคะ บางทีแค่คนเราปรับเปลี่ยนมุมมองกันเสียบ้าง ก็อาจจะทำให้พบมุมดีๆ เรื่องราวดีๆแบบ

นี้ก็ได้ โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากยัดเยียดกันเลย




กดถูกใจ (Like) ให้กำลังใจสำนักข่าว



ที่มา: http://news.boxza.com/view/30933
Previous
Next Post »